เราเคยได้ยินมามากต่อมากว่า "ชาวนาเป็นคนปลูกข้าว แต่ชาวนาต้องซื้อข้าวสารกิน" ปรากฏการณ์นี้เป็นผลผลิตจากการพัฒนาที่มุ่งเน้นแต่ "ความทันสมัย แต่ไม่พัฒนา" กลุ่มสัจจะฯ วัดป่ายางและเครือข่ายตระหนักถึงปัญหานี้ และนำมาพูดคุยกันในเวทีเรียนรู้ผู้นำเครือข่ายที่จัดขึ้นทุกเดือนมาตลอด
ผลจาการพูดคุยทำให้บางกลุ่มที่มีความพร้อม เริ่มลุกขึ้นมาจัดการ "ข้าว" ด้วยตนเอง จากที่แต่ก่อนให้คนอื่นจัดการให้ทั้งหมด ชุมชนเพียงแต่เปิดกระสอบแล้วเทข้าวสารลงหม้อสักเดี๋ยวก็ได้กิน มาเป็นแบ่งส่วนมาให้ชุมชนจัดการบ้างสักหนึ่งในสิบในช่วงเริ่มต้น
วิธีการคือ สมาชิกกลุ่มสัจจะในแต่ละกลุ่ม แสดงความจำนงว่า ครัวเรือนตนเองบริโภคข้าวสารกี่โลกรัมต่อเดือน แล้วมาฝากกลุ่มสั่งจากผู้ค้าส่งในท้องถิ่น ซึ่งจะประหยัดกว่ากระสอบหนึ่งก็ตกหลายบาท ยิ่งไปกว่านั้น และมีค่ามากกว่าเงินที่ประหยัดไปคือ กรรมการและสมาชิกได้เรียนรู้ห่วงโซ่ของธุรกิจข้าวสาร จุดนี้เองที่จะวางรากฐานให้กลุ่มสัจจะและเครือข่าย เป็นผู้จัดการ "เศรษฐกิจข้าวชุมชน" ได้ทั้งระบบในอนาคต
วันนี้ กลุ่มสัจจะฯ วัดป่ายางได้รับการส่งมอบข้าวสารจากการสั่งซื้อล็อดแรกจากสมาชิก 31 กระสอบ เป็นตัวเลขที่ไม่มากไม่น้อย กำลังพองามสำหรับก้าวแรกในการเรียนรู้เรื่องข้าวครับ หลังจากที่มอบการจัดการไว้กับมือคนอื่นมานาน วันนี้เราเริ่มดึงกลับมาอยู่ในมือของเราแล้ว
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น